Ford Everest Wildtrak ตัวท๊อปขับสี่ ออฟชั่นแน่น

Ford Everest Wildtrak ตัวท๊อปขับสี่ ออฟชั่นแน่น

   เมื่อ : 7 พ.ค. 2567

ณ.วันเวลาที่ได้นำ Everest Wildtrak มาลองขับ ก็เป็นเวลาของรุ่นท๊อปสุดของ Ford เป็น Everest Platinum V6 3.0 ในส่วนของราคาของ Everest Wildtrak 4x4 อยู่ที่ 1899000 บาท เทียบกับรุ่น Titanium 4x4 อยู่ที่ 1874000 บาท ส่วนต่างกัน 25000 บาท มีอะไรได้เพิ่มขึ้นมาบ้าง

  • ชุดกันชนหน้า-หลัง Wildtrak 
  • โลโก้ Wildtrak ที่ฝากระโปรงหน้า 
  • แร็คหลังคายกสูง 
  • คิ้วซุ้มล้อสีเทา-ดำ 
  • เบาะนั่งปักโลโก้ Wildtrak 
  • ล้อแม็กลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว 
  • สี Luxe Yellow แบบเดียวกับ Ranger Wildtrak

ด้านเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Bi-Turbo พละกำลังสูงสุด 201 แรงม้าที่ 3750 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1750-2000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด (คันเกียร์ไฟฟ้าแบบ e-Shifter) พร้อมระบบ Terrain Management System 6 โหมดการขับขี่ Eco Normal Tow/Haul Slippery Mud/Ruts Sand และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part Time 4WD Diff Lock หลังไฟฟ้า (หัวเกียร์แบบ e-Shifter มีระบบความปลอดภัยติดมาให้นั่นก็คือในกรณีที่ผู้ขับขี่ปลดเข็มขัด แต่ยังอยู่ในตำแหน่งเกียร์ D แล้วมีการเปิดประตู คันเกียร์จะเลื่อนไปอยู่ในตำแหน่ง P โดยอัตโนมัติ เพื่อป้องรถเลื่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ)

นอกจากนี้ ความเปลี่ยนแปลงที่ต่างจาก Everest รุ่นปี 2021 ก่อนการปรับโฉมเป็น Next Gen Everest คือการปรับจูนเกียร์ใหม่จากเดิมที่จะเปลี่ยนเกียร์ 10 ที่ ความเร็ว 100  กม./ชม. ลดลงมาเหลือ 90-91 กม./ชม. ทำให้อัตราสื้นเปลืองดีขึ้นจากรุ่นเดิมเล็กน้อย และปรับระบบขับเคลื่อนจากขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part Time ในโฉม Next Gen Everest การเปลี่ยนแปลงระบบขับเคลื่อนมีผลต่ออัตราเร่งโดยตรง เดิมทีนั้นในโฉมช่วงออกตัวจะค่อนข้างอุ้ยอ้าย พอวิ่งลอยลำก็สามาถไต่ความเร็วได้เนื่องจากจะมีการเฉลี่ยกำลังทั้งสี่ล้อตอนออกตัวจะอยูที่ 60:40 มีความเร็วเล็กน้อยจะเฉลี่ยกำลังอยู่ที่ 80:20 ซึ่งการแบ่งกำลังจะมีการแสดงผลที่หน้าจอเช่นกัน 

ขับแล้วเล่า - อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโฉม Next Gen Everest คือระบบขับเคลื่อนจาก AWD เป็นขับสี่แบบ Part time ออกตัวไวขึ้น ช่วงล่างที่ความเร็วต่ำอาจจะดูกระด้างขึ้นเล็กน้อยแต่มันจะดีขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูงรูดได้หนึบขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าที่จะมีอาการย้วยที่ความเร็วสูง การกรุเก็บเสียงทำได้ดีจากรุ่นเดิมในโฉมนี้เสียงจะมีเล็ดลอดเข้ามาที่ความเร็ว 120 กม./ชม เป็นต้นไป

Editor Comment : การเพิ่มรุ่น Wildtrak เป็นรุ่นที่แต่งหล่อรอบคันพร้อมล้อแม็กลายใน วางตำแหน่งสูงกว่า Titanium 4x4 ส่วนเรื่องพละกำลังและสมรรถนะยังคงเท่าเดิม กับส่วนต่าง 25000 บาท เป็นอีก 1 รุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยครับ