Ford Everest Wildtrak ตัวท๊อปขับสี่ ออฟชั่นแน่น
Ford Everest Wildtrak ตัวท๊อปขับสี่ ออฟชั่นแน่น
ณ.วันเวลาที่ได้นำ Everest Wildtrak มาลองขับ ก็เป็นเวลาของรุ่นท๊อปสุดของ Ford เป็น Everest Platinum V6 3.0 ในส่วนของราคาของ Everest Wildtrak 4x4 อยู่ที่ 1899000 บาท เทียบกับรุ่น Titanium 4x4 อยู่ที่ 1874000 บาท ส่วนต่างกัน 25000 บาท มีอะไรได้เพิ่มขึ้นมาบ้าง
- ชุดกันชนหน้า-หลัง Wildtrak
- โลโก้ Wildtrak ที่ฝากระโปรงหน้า
- แร็คหลังคายกสูง
- คิ้วซุ้มล้อสีเทา-ดำ
- เบาะนั่งปักโลโก้ Wildtrak
- ล้อแม็กลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว
- สี Luxe Yellow แบบเดียวกับ Ranger Wildtrak
ด้านเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Bi-Turbo พละกำลังสูงสุด 201 แรงม้าที่ 3750 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1750-2000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด (คันเกียร์ไฟฟ้าแบบ e-Shifter) พร้อมระบบ Terrain Management System 6 โหมดการขับขี่ Eco Normal Tow/Haul Slippery Mud/Ruts Sand และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part Time 4WD Diff Lock หลังไฟฟ้า (หัวเกียร์แบบ e-Shifter มีระบบความปลอดภัยติดมาให้นั่นก็คือในกรณีที่ผู้ขับขี่ปลดเข็มขัด แต่ยังอยู่ในตำแหน่งเกียร์ D แล้วมีการเปิดประตู คันเกียร์จะเลื่อนไปอยู่ในตำแหน่ง P โดยอัตโนมัติ เพื่อป้องรถเลื่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ)
นอกจากนี้ ความเปลี่ยนแปลงที่ต่างจาก Everest รุ่นปี 2021 ก่อนการปรับโฉมเป็น Next Gen Everest คือการปรับจูนเกียร์ใหม่จากเดิมที่จะเปลี่ยนเกียร์ 10 ที่ ความเร็ว 100 กม./ชม. ลดลงมาเหลือ 90-91 กม./ชม. ทำให้อัตราสื้นเปลืองดีขึ้นจากรุ่นเดิมเล็กน้อย และปรับระบบขับเคลื่อนจากขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part Time ในโฉม Next Gen Everest การเปลี่ยนแปลงระบบขับเคลื่อนมีผลต่ออัตราเร่งโดยตรง เดิมทีนั้นในโฉมช่วงออกตัวจะค่อนข้างอุ้ยอ้าย พอวิ่งลอยลำก็สามาถไต่ความเร็วได้เนื่องจากจะมีการเฉลี่ยกำลังทั้งสี่ล้อตอนออกตัวจะอยูที่ 60:40 มีความเร็วเล็กน้อยจะเฉลี่ยกำลังอยู่ที่ 80:20 ซึ่งการแบ่งกำลังจะมีการแสดงผลที่หน้าจอเช่นกัน
ขับแล้วเล่า - อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโฉม Next Gen Everest คือระบบขับเคลื่อนจาก AWD เป็นขับสี่แบบ Part time ออกตัวไวขึ้น ช่วงล่างที่ความเร็วต่ำอาจจะดูกระด้างขึ้นเล็กน้อยแต่มันจะดีขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูงรูดได้หนึบขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าที่จะมีอาการย้วยที่ความเร็วสูง การกรุเก็บเสียงทำได้ดีจากรุ่นเดิมในโฉมนี้เสียงจะมีเล็ดลอดเข้ามาที่ความเร็ว 120 กม./ชม เป็นต้นไป
Editor Comment : การเพิ่มรุ่น Wildtrak เป็นรุ่นที่แต่งหล่อรอบคันพร้อมล้อแม็กลายใน วางตำแหน่งสูงกว่า Titanium 4x4 ส่วนเรื่องพละกำลังและสมรรถนะยังคงเท่าเดิม กับส่วนต่าง 25000 บาท เป็นอีก 1 รุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยครับ