First Impression : Hyundai Ioniq 5 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าล้วนจากเกาหลี

First Impression : Hyundai Ioniq 5 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าล้วนจากเกาหลี

   เมื่อ : 11 เม.ย. 2567

 Ioniq ณ.ปัจจุบันถือเป็นแบนด์ย่อยของ Hyundai ที่มีเฉพาะรถไฟฟ้าเท่านั้น จากเดิมที่เป็นรุ่นนึงในแบรนด์ ประเดิมตลาดประเทศไทยด้วย Ioniq 5 ซับคอมแพค ครอสโอเวอร์ ดีไซน์ย้อนยุคโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Hyundai Pony ซีดานรุ่นแรกที่ผลิตออกมาในปี 1974 เป็นรถที่สร้างชื่อให้กับ Hyundai นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในปี 2019 Hyundai เผยโฉมต้นแบบรถรุ่นใหม่ในชื่อ Ioniq Concept 45 EV รถรุ่นดังกล่าวออกโชว์ตัวในงาน IAA หรืองาน Frankfurt Motor Show 2019 

การนำดีไซน์นี้มาใช้อีกครั้งใน Ioniq 5 ถือเป็นการออกแบบที่ต่างออกไป โดยเส้นสายรอบคันที่เหลี่ยมสัน พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Parametric Pixel กันชนหน้ารูตัววี กับฝากระโปรงหน้าแบบ Clamshell และล้อแม็กขนาด 20 นิ้ว ส่วนโครงสร้างพื้นฐานของ Ioniq 5 พัฒนาบนพื้นฐาน E-GMP : Electric Global Modular Platform เป็นแพลทฟอร์มที่ฮุนไดวางแผนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต  

รุ่นที่ได้ลองขับเป็นรุ่น “First Edition” ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปสุดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 72.6 kWh ที่ให้พละกำลังสูงสุด  217 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตรเดินทางได้ไกลสุด  481 กิโลเมตรต่อการชาร์จ  1 ครั้ง Quick Charge 350 kW 10-80% ใน 18 นาที

ภายในห้องโดยสาร ใช้โทนสีสว่าง เบาะนั่งแบบ Zero Gravity ออกแบบให้กับสรีระผู้ขับขี่ตลอดการเดินทาง พวงมาลัย 2 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่ม Drive Mode 3 โหมด eco normal และ sport ด้านหลังพวงมาลัยติดตั้ง Paddle Shift สำหรับปรับเพิ่ม-ลด Re-Generative หรือการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ในขณะที่เบรก/ลดความเร็วหรือลงทางลาดชัน มี 3 ระดับ และ 1 โหมดคือ i-Pedal ที่ใช้เพียงคันเร่งอย่างเดียวหากมีการยกคันเร่งรถจะชะลอความเร็วคล้ายกับการเบรก

มาตรวัดหน้าจอแสดงผล 12.3 นิ้ว คอนโซลกลางดีไซน์ใช่งานสะดวกสามาระเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้ เผื่อในกรณีต้องจอดชิดกำแพงแล้วต้องออกอีกประตูจะได้ไม่ต้องข้ามคอนโซลกลาง นั่นทำให้คันเกียร์หรือปุ่มเกียร์ต้องย้ายที่จากคอนโซลจากมาอยู่ที่หลังพวงมาลัย ในรุ่นท๊อป First edition จะได้หลังคาแบบ Vision Roof หลังตากระจกบานใหญ่

ความปลอดภัยก็ไม่น้อยหน้าใครในกลุ่ม ev มีทั้งกล้องรอบคัน ที่เด็ดคือเวลาเปิดไฟเลี้ยวจะแสดงภาพจากกล้องด้านข้างมาแสดงผลที่จอของผู้ขับขี่   

เบาะนั่งปรับเข้ากับท่านั่งทำให้ทัศนวิสัยขณะขับขี่ลงตัว ปรับตัวเข้ากับรถไม่นาน พร้อมที่จะลุยเส้นทางที่จอแจ แหวกการจรจารจากถนนสุขุมวิทเพื่อขึ้นทางด่วนช่วงนี้ทำความเร็วได้ไม่มาก เน้นกดคันเร่งตามขบวนลองโยกเปลี่ยนเลนส์รถไม่มีอาการโคลงหรือโยนตัว ช่วงล่างค่อนข้างแข็ง เริ่มสงสัยตึงลองกดหน้าจอเรื่อยๆพบว่าค่าลมยางปาเข้าไป 51 ปอนด์ทั้ง 4 ล้อ ส่วนค่ามาตรฐานสำหรับ ioniq 5 ที่ทีมวิศวกรบอกคือ ล้อหน้า 38 และล้อหลัง 42 ทำให้จับอาการของช่วงล่างได้ไม่ดีนัก 

ส่วนเส้นทางที่ใช้ในการทดลองขับ Ioniq 5 เดินทางจาก Ioniq Lab ย่านสุขุมวิท สู่เมืองมรดกโลก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยะทางไป-กลับกว่า 190 กิโลเมตร เส้นทางที่ใช้ล้วนเป็นเส้นทางที่หลายๆคนต้องเดินทางทั้งการเดินทางในเมือง ไปจนการใช้ความเร็วบนทางด่วนเป็นต้น ความเร็วที่ใช้เดินทางในทริปนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 100-120 กม./ชม.โดยประมาณ เรื่องของเสียงรบกวนขณะเดินทางใช้ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. เริ่มมีเสียงเล็ดลอดเข้ามาบ้างซึ่งน่าจะเป็นเพราะลมยางที่แข็งเกินไป (จุดนี้ถ้ามีโอกาสนำมาขับอีกครั้งจะแจ้งให้ทราบ) การมุดฝ่าการจราจรในเมืองทำได้คล่องตัว เดินทางกลับถึง Ioniq Lab เหลือแบตเตอรี่ที่ 30% 

ราคาทั้ง 3 รุ่นย่อย ของ Hyundai Ioniq 5

  • Premium       ราคา 1.699 ล้านบาท
  • Exclusive      ราคา 1.899 ล้านบาท 
  • First Edition  ราคา 2.399 ล้านบาท

Editor Comment : ioniq 5 เป็นโมเดลที่น่าจับตามองอีก 1 รุ่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกแบบครอสโอเวอร์ที่อิงมาจาก Hyundai Pony และองค์ประกอบหลายๆ อย่างทำให้ ioniq 5 เป็นรถที่ความโดดเด่นรุ่นนึงในตลาด ส่วนการขับขี่ เบาะนั่งได้ออกแบบให้ลดความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เรื่องของราคารุ่นท๊อปราคาเฉียด 2.4 ล้าน ถ้าเทียบเรื่องการดีไซน์และความปลอดภัยก็ยังคุ้มค่า