TK ไตรมาส 1/2567 รายได้รวม 344.5 ล้านบาท

TK ไตรมาส 1/2567 รายได้รวม 344.5 ล้านบาท

   เมื่อ : 10 พ.ค. 2567

TK ไตรมาส 1/2567 รายได้รวม 344.5 ล้านบาท

หนี้ครัวเรือนสูง เน้นระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ คุมคุณภาพลูกหนี้

 

บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายได้รวม 344.5 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 31.2 ล้านบาท เนื่องจากทางบริษัทฯ มีนโยบายเร่งตัดหนี้สูญมากเป็นพิเศษในกลุ่มลูกหนี้ที่เปราะบาง สูงถึง 154.6 ล้านบาท ยอดขายรถจักรยานยนต์ไตรมาส 1 ลดลง 11.2% เหลือ 454796 คัน ยอดขายรถยนต์มีจำนวน 163756 คัน ลดลง 24.6% ส่วนหนึ่งจากปัญหาลูกค้าไม่ผ่านอนุมัติสินเชื่อจาก Reject Rate สูง ขณะหนี้ครัวเรือนสูงถึง 91% ต่อจีดีพี ณ ไตรมาส 4 ปี 2566 ส่งผลโดยตรงต่อยอดปล่อยกู้ของธุรกิจเช่าซื้อ ณ ไตรมาส 1 พอร์ตเช่าซื้อรวมของ TK มีมูลค่า 3168.6 ล้านบาท ลดลง 13.4% พอร์ตเช่าซื้อต่างประเทศ ในกัมพูชาและ สปป. ลาว มีมูลค่า 1220 ล้านบาท หรือ 42.6% ของพอร์ตเช่าซื้อรวม ย้ำยังคงใช้กลยุทธ์บริหารต้นทุนทางการเงิน เข้มงวดปล่อยสินเชื่อในประเทศ เดินหน้าหานิวเอสเคิฟจากธุรกิจใหม่ รวมทั้งถือเงินสด 2495.6 ล้านบาท พร้อมขยายพอร์ตเช่าซื้อ และลงทุนธุรกิจใหม่เพิ่มทันทีในจังหวะที่เหมาะสม

 

นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติงบการเงินสำหรับรอบบัญชีสิ้นสุดไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มี รายได้รวม 344.5 ล้านบาท ลดลง 17.0% จาก 415.0 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 31.2 ล้านบาท ลดลง 174.1% จาก 42.1 ล้านบาท ณ ไตรมาส 1 เนื่องจากทางบริษัทมีนโยบายเร่งตัดหนี้สูญมากกว่าปกติ ในกลุ่มลูกหนี้ที่เปราะบาง สูงถึง 154.6 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่อในประเทศและต่างประเทศมีสัดส่วน 57 : 43 รวมมูลค่าพอร์ตเช่าซื้อรวม 3168.6 ล้านบาท ลดลง 13.4% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการหดตัวของตลาดในประเทศเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ประกอบกับสถานการณ์หนี้ครัวเรือน โดยธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานหนี้ครัวเรือนในไตรมาส 4 ปี 2566 สูงถึง 91% ต่อจีดีพี มูลค่ากว่า 16.3 ล้านล้านบาท (จากการศึกษาทั่วโลก สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไม่ควรเกิน 80% ต่อจีดีพี) อย่างไรก็ดี กิจการต่างประเทศในกัมพูชาและ สปป. ลาว ลูกหนี้รวมในไตรมาสแรกมีมูลค่า 1220 ล้านบาท เติบโต 1.4% จาก 1203 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2566

 

“ในไตรมาสแรกของปี ภาพรวมของพอร์ตเช่าซื้อในประเทศปีนี้ยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพอร์ตเช่าซื้อของ TK ซึ่งมีสาเหตุทั้งจากการที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกประกาศเรื่อง ให้ ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมฯ พร้อมกำหนดเพดานดอกเบี้ย ซึ่งทั้งอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบตั้งแต่ก่อนมีผลบังคับเมื่อ 10 มกราคม 2566 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ประกอบกับหนี้ครัวเรือนจากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทยที่สูงเกิน 80% ของจีดีพี ต่อเนื่องมาหลายปี และ ณ ไตรมาส 4 ปี 2566 สูงถึง 91% ของจีดีพี ส่งผลโดยตรงกับการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ต่าง ๆ รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเปราะบางจากรายได้ที่ฟื้นตัวช้า ขณะค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นจากหลายปัจจัย อย่างไรก็ดี จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจเช่าซื้อมากว่า 50 ปี บริษัทฯ ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ โดยเน้นคุณภาพลูกหนี้ บริหารต้นทุนโดยรวม และไม่พยายามขยายในสถานการณ์มีความเสี่ยงสูงจากปัจจัยเหนือการควบคุม เน้นกลยุทธ์เติบโตในระยะกลางและระยะยาว ทำให้ TK สามารถก้าวผ่านมาถึงปัจจุบัน” นางสาวปฐมา กล่าว