หลักทรัพย์ธนชาต ชี้การลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เป็น “โอกาส” ในการลงทุนจากหลายปัจจัยบวก

หลักทรัพย์ธนชาต ชี้การลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เป็น “โอกาส” ในการลงทุนจากหลายปัจจัยบวก

   เมื่อ : 7 พ.ค. 2567

หลักทรัพย์ธนชาต ชี้การลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง 2567  เป็น “โอกาส” ในการลงทุนจากหลายปัจจัยบวก 

ทั้งภาคการท่องเที่ยวที่โตต่อเนื่อง  การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาล และมาตรการ Digital Wallet หนุนส่ง 

หลักทรัพย์ธนชาต ชี้กลยุทธ์การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เป็น “โอกาส” ในการลงทุน เพราะเริ่มเห็นปัจจัยบวกหลายด้านที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจ นอกจากมูลค่าหุ้น (valuation) ที่อยู่ในระดับต่ำแล้ว พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วยการคว้า 3 รางวัลนักวิเคราะห์ผู้มีผลงาน Outstanding จากเวที IAA Best Analyst Awards 2023 โดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน  ประเภทนักกลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน ประเภทกลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี   

 

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล Head of Retail Strategy และ Investment Strategist  บริษัทหลักทรัพย์      ธนชาต จำกัด (มหาชน) เผยถึงสภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้ว่าการลงทุนใน SET ในช่วงที่ผ่านมา แม้มูลค่า (valuation) “ไม่แพง” แต่ก็สร้างผลตอบแทนไม่ดีนัก เพราะเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจมีเพียงเครื่องยนต์เดียวคือภาคการท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำเพียง 1.9% ในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหากมองในมุมบวก ถือว่าเป็น “โอกาส” ในการลงทุนมากทีเดียว เพราะนอกจาก valuation ที่อยู่ในระดับต่ำแล้ว เรายังเห็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากนักท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาล ทำให้การลงทุนภาครัฐฯ ที่หายไปตลอดหลายเดือนที่ผ่านมากลับมาทำงานอีกครั้ง มาตรการ Digital Wallet ปลายปี 2567 ภาคการส่งออกที่น่าจะฟื้นตัวได้ตามภาคการผลิตของโลกที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และธนาคารกลางหลายแห่งจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยตั้งแต่กลางปีนี้-ปลายปีนี้ เป็นต้นไป 

 

กลุ่มหลักทรัพย์ที่มีรายได้อิงกับการบริโภค-การลงทุนภายในประเทศ และการท่องเที่ยว จะมีกำไรเติบโตได้ดี และเป็นกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ CPALL CPN CBG  AOT  AMATA WHA CK STEC และ MTC ขณะที่กลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่าง BDMS และ BH เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว ที่ได้รับผลบวกจากจำนวนผู้ป่วยต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มสังคมสูงวัยในประเทศ  

 

นอกจากนี้การลงทุนโดยตรงในหุ้นแล้ว ยังเห็นโอกาสเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนผ่านหุ้นกู้อนุพันธ์ (Structured Note) ที่ให้อัตราผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย สูง 12% ถึง 20% ด้วยเช่นกัน 

 

ทั้งนี้ ท่ามกลางสภาวะตลาดที่มีความผันผวนในปัจจุบัน หลักทรัพย์ธนชาตได้ใช้จุดแข็งของบริษัทผลิตบทวิเคราะห์เชิงลึกที่ทันต่อสถานการณ์ และทีมนักวิเคราะห์การลงทุนที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของบริษัท โดยล่าสุด หลักทรัพย์ธนชาต ได้รับรางวัลนักวิเคราะห์ผู้มีผลงาน Outstanding 3 รางวัล จากเวที IAA Best Analyst Awards 2023 โดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ได้แก่  นางสาวพิมพ์ผกา นิจการุณ นักวิเคราะห์ผู้มีผลงาน Outstanding ประเภทนักกลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน นางสาวสรัชดา ศรทรง ประเภทกลุ่มธุรกิจการเงิน และ นางสาวยุพาพรรณ พลพรประเสริฐ ประเภทกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี    ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงผลงานด้านงานวิเคราะห์ที่โดดเด่นและผลิตงานบทวิเคราะห์ที่มีคุณภาพ  

 

“บริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้าและนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมนักวิเคราะห์ของบริษัทมาโดยตลอด  รางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ และสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานและความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจของเรา บริษัทยังคงเดินหน้าที่จะพัฒนาศักยภาพของทีมงานนักวิเคราะห์  เพื่อนำเสนอบทวิเคราะห์เชิงลึกที่มีคุณภาพ รวมถึงส่งมอบบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า ด้วยประสบการณ์ ความรู้ ความซื่อสัตย์ในอาชีพการงาน และความเป็นมืออาชีพ ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของหลักทรัพย์ธนชาตที่ต้องการ “สร้างอิสรภาพทางการเงินให้กับนักลงทุน” (To make financial freedom a reality)”  นายอดิศักดิ์กล่าว 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ