realme ปฏิวัติยุคใหม่แห่งการถ่ายภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ เผยเทคโนโลยีกล้องระดับ Ultra-Clear ติดตั้งขุมพลัง AI ใน “realme 13 Pro Series”
realme ปฏิวัติยุคใหม่แห่งการถ่ายภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ เผยเทคโนโลยีกล้องระดับ Ultra-Clear ติดตั้งขุมพลัง AI ใน “realme 13 Pro Series”
realme ปฏิวัติยุคใหม่แห่งการถ่ายภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ เผยเทคโนโลยีกล้องระดับ Ultra-Clear ติดตั้งขุมพลัง AI ใน “realme 13 Pro Series”
realme แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เผยเทคโนโลยีกล้องความคมชัดสูง (Ultra-Clear) รุ่นใหม่ที่มาพร้อมขุมพลังการประมวลผลด้วย AI ใน “realme 13 Pro Series” ที่ทุกคนรอคอย ภายในงาน “realme AI Imaging Media Preview Event” ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานครฯ วันนี้
กิจกรรมรอบพรีวิวครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “The Future is Here: AI is Revolutionizing Mobile Imaging” โดยได้รับเกียรติจากกลุ่มผู้นำในอุตสาหกรรมและผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ตโฟน ตลอดจนสื่อมวลชนชั้นนำ มาร่วมค้นพบศักยภาพของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อเทคโนโลยีการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนในโลกปัจจุบัน โดยมีแขกรับเชิญคนสำคัญคือนายสเวน-โอลาฟ สเตนกี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการรับรองมาตรฐาน TÜV Rheinland Greater China ซึ่งมานำเสนอข้อมูลนวัตกรรมการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนใหม่ล่าสุดของสถาบัน TÜV Rheinland และนายโทชิมิสึ คุโรซากะ รองประธานบริษัท Sony Semiconductor Solutions (Shanghai) ซึ่งได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ระหว่าง Sony และ realme ผ่านวิดีโอนำเสนอข้อมูลภายในงาน
ความร่วมมือระหว่าง realme และ Sony ในครั้งนี้คือการนำเซ็นเซอร์ LYT-701 ของ Sony มาใช้ในสมาร์ตโฟน realme 13 Pro Series เป็นรุ่นแรกของโลก โดยเซ็นเซอร์รุ่นนี้ถือเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่น่าตื่นใจของวงการ พร้อมเสริมประสิทธิภาพด้วย HYPERIMAGE ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมการถ่ายภาพด้วย AI ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนจาก realme
AI พร้อมพลิกโฉมวงการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟน
“เรากำลังอยู่บนจุดสูงสุดของการปฏิวัติการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟน” นายฟรานซิส หว่อง หัวหน้าฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ realme กล่าว “นับเป็นเวลาหลายปีแล้วที่อุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนพยายามแข่งขันการถ่ายภาพโดยอาศัยฮาร์ดแวร์ เช่น จำนวนพิกเซลหลักล้าน ขนาดเซ็นเซอร์ ไปจนถึงเทคโนโลยีเลนส์ แม้ว่าสมาร์ตโฟนจะพยายามช่วยให้ผู้ใช้งานมีความยืดหยุ่นและควบคุมการถ่ายภาพได้มากขึ้น ทว่า ความก้าวหน้าในการพัฒนาชุดกล้องก็เริ่มถึงขีดจำกัดแล้ว ซึ่งทำให้การถ่ายภาพในยุคต่อไปจะไม่ได้เป็นเรื่องของฮาร์ดแวร์อย่างเดียวเท่านั้น เพราะ AI จะกลายมาเป็นสนามรบใหม่ที่จะกำหนดอนาคตของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟน”
สถาปัตยกรรมชั้นแรกของ HYPERIMAGE คือการใช้ชุดกล้องที่ล้ำสมัยหลายตัว รวมถึงเลนส์เพอริสโคปและเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ เพื่อสร้างพื้นฐานสำหรับโซลูชันการถ่ายภาพขั้นสูงด้วยการเก็บภาพให้ได้คุณภาพสูงสุดในขั้นแรก หลังจากนั้น อัลกอริธึมการถ่ายภาพระบบ AI และการตกแต่งภาพด้วย AI จะทำการประมวลผลข้อมูล เพื่อปรับปรุงคุณภาพไฟล์ทั้งในส่วนของภาพถ่ายและวิดีโอ ทำให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินกับเทคโนโลยีกล้องความคมชัดสูงด้วยขุมพลัง AI อย่างง่ายดายได้จากกล้องสมาร์ตโฟน
นิยามใหม่แห่งสุนทรียศาสตร์การถ่ายภาพบุคคลด้วยสมาร์ตโฟน realme 13 Pro Series
ด้วยการทำงานของสถาปัตยกรรม HYPERIMAGE ทำให้ realme 13 Pro Series มอบกล้องความคมชัดสูงพร้อมเทคโนโลยี AI ซึ่งโดดเด่นด้วยชุดกล้องระดับเฟิร์สคลาสและขีดความสามารถของ AI ที่เหนือชั้น เพื่อสร้างประสบการณ์การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมทัดเทียมกับกล้อง DSLR ระดับมืออาชีพ โดยรุ่น realme 13 Pro มาพร้อมกล้องหลักคู่ ประกอบด้วยเลนส์หลักความละเอียด 50MP พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) และใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT-701 เป็นรุ่นแรกในอุตสาหกรรม และเลนส์เทเลโฟโต้เพอริสโคปความละเอียด 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ Sony LYT-600 ซึ่งรองรับการซูมออปติคอล 3 เท่า ระบบการทำงานขั้นสูงนี้ช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายคุณภาพสูงได้ด้วยสมาร์ตโฟนในทุกสถานการณ์ นับตั้งแต่การถ่ายในที่แสงน้อยได้อย่างคมชัด ไปจนถึงการถ่ายภาพบุคคลที่สวยเป็นธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง
“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นมากกว่าเรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นการส่งเสริมศักยภาพให้ทุกคนสามารถเก็บภาพประทับใจและแบ่งปันโลกของตนเองได้อย่างยอดเยี่ยมเหนือจินตนาการ” นายโทชิมิตสึ คุโรซากะ รองประธานบริษัท Sony Semiconductor Solutions (Shanghai) กล่าว
และด้วยการนำขีดความสามารถของ AI มาใช้ในการประมวลผลภาพตั้งแต่ระดับไฟล์ RAW โดยอัลกอริธึม AI HyperRAW ของ realme จะช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพและขยายช่วงไดนามิกได้อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อจับแสงและเงาที่แท้จริงและมอบผลลัพธ์ที่สวยสมจริงที่สุด นอกจากนี้ realme 13 Pro Series ยังมาพร้อมชุดฟังก์ชันขั้นสูงอย่าง AI Pure Bokeh AI Natural Skin Tone และ AI Ultra Clarity ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการถ่ายภาพบุคคล โดย AI Pure Bokeh จะระบุองค์ประกอบของฉากหน้า พื้นที่ระยะกลาง และฉากหลังในภาพ รวมถึงวัตถุที่เป็นจุดโฟกัสได้อย่างแม่นยำ หลังจากนั้นจะทำการแบ่งกลุ่มวัตถุด้วยความละเอียดในระดับพิกเซล และใช้การปรับแต่งและการประมวลผลอัลกอริธึมที่เหมาะสม เพื่อสร้างภาพบุคคลที่สวยงามราวฉากในภาพยนตร์ภายในเวลาไม่กี่วินาที ส่วน AI Natural Skin Tone สามารถปรับโทนสีผิวที่แตกต่างให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติผ่านการประมวลผลของ AI ในขณะที่ฟีเจอร์การแก้ไขภาพด้วย AI บนคลาวด์ อย่าง AI Ultra Clarity ก็สามารถปรับปรุงภาพถ่ายความละเอียดต่ำให้มีคุณภาพสูงขึ้น มอบเนื้อไฟล์ภาพที่ดีได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งช่วยทลายข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์กล้องและมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ
ก่อนงานเปิดตัวที่กำลังจะมาถึง realme 13 Pro ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานกล้องความละเอียดสูง (High Resolution Camera Certification) จากองค์กรผู้ทำหน้าที่ทดสอบ ตรวจสอบคุณภาพ และออกใบรับรองระดับนานาชาติอย่าง TÜV Rheinland เป็นที่เรียบร้อย
“ไม่ว่าการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนจะพัฒนาไปอย่างไร ความคมชัดยังถือเป็นพื้นฐานสำคัญเสมอ” นายสเวน-โอลาฟ สเตนกี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการรับรองมาตรฐานแห่ง TÜV Rheinland Greater China กล่าว “นับตั้งแต่การถ่ายภาพแสงยามเช้าอันละเอียดอ่อนหรือแสงสีที่นุ่มนวลของโคมไฟริมถนน ไปจนถึงการถ่ายภาพแสงแดดเจิดจ้าในธรรมชาติ สมาร์ตโฟน realme 13 Pro การันตีความคมชัดของภาพในระดับยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงแบบใดก็ตาม”
realme เน้นย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้เทคโนโลยี AI เป็นที่นิยมแพร่หลายของคนวัยหนุ่มสาว และสนับสนุนคนรุ่นใหม่ด้วยการมอบประสบการณ์การเก็บภาพโลกทั้งใบในรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน โดย realme 13 Pro Series มีกำหนดเปิดตัวที่ประเทศอินเดียเร็ว ๆ นี้ และจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงานเปิดตัวที่อินเดียต่อไป