“ไลอ้อน ประเทศไทย” ถอดรหัสความสำเร็จ “ธุรกิจคู่คุณธรรม” 55 ปี เคียงคู่ครอบครัวคนไทย ฝ่ามรสุมด้วยการมองวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน
“ไลอ้อน ประเทศไทย” ถอดรหัสความสำเร็จ “ธุรกิจคู่คุณธรรม” 55 ปี เคียงคู่ครอบครัวคนไทย ฝ่ามรสุมด้วยการมองวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน
“ไลอ้อน ประเทศไทย” ถอดรหัสความสำเร็จ “ธุรกิจคู่คุณธรรม” 55 ปี เคียงคู่ครอบครัวคนไทย ฝ่ามรสุมด้วยการมองวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน
การบริหารธุรกิจในโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เผชิญหลายปัจจัยกดดันตั้งแต่โรคระบาด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) สงครามระหว่างประเทศ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหลากหลาย ถือเป็นความท้าทายสำหรับทุกธุรกิจ ต้องพร้อมปรับตัวในทุกสถานการณ์ ซึ่ง “ไลอ้อน ประเทศไทย” ฝ่ามรสุมมาได้ด้วยการมองวิกฤตให้เป็นโอกาส
ถอดรหัสความสำเร็จ “ธุรกิจคู่คุณธรรม”
“หากจะถอดรหัสความสำเร็จของ ไลอ้อน ประเทศไทย ที่ยืนหยัดเคียงคู่ครอบครัวคนไทยมาตลอดระยะเวลา 55 ปี มีนโยบายสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคเอเชียอย่างมีคุณธรรม มีทิศทางการพัฒนาธุรกิจเพื่อการมีสุขภาพที่ดีของทั้งพนักงาน ผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นสำคัญ ไม่หยุดพัฒนา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์สุขภาวะที่ดีของผู้บริโภคทุกช่วงวัย สอดรับกับเทรนด์ในปัจจุบัน และเสริมสร้างความมั่นคงด้วยนโยบายบริหารนโยบายคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ปรัชญา “ธุรกิจคู่คุณธรรม” ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ พร้อมกับดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน” นายชาติ จันทร์วิจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
เดินหมากเกมรุก “ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้”
นายชาติ กล่าวต่อว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ ไลอ้อนจะปรับเกม เดินหมากเกมรุก ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้า สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง แบรนด์ที่ติดอันดับครองใจผู้บริโภค ได้แก่ โชกุบุสสึโมโนกาตาริ คิเรอิคิเรอิ โคโดโม และซิสเท็มมา สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจนั้นคือ ต้องปรับตัวให้เร็ว ให้ทันโลก พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจใหม่ อาทิ ธุรกิจเคมิคัล ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจ ตั้งเป้าหมายก้าวข้ามกระแสความเปลี่ยนแปลง “ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้”
“Our Loss is our gain” ขาดทุน คือ กำไร
นอกจากการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย ไลอ้อนเรามีโครงการเพื่อสังคมหลายโครงการ อาทิ
· โครงการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี มอบทุนการศึกษา ส่งเสริมคุณธรรมพื้นฐานแก่นักศึกษาอาชีวะ ให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณภาพ ผ่านมาแล้วทั้งหมด 8 รุ่น สร้างนักศึกษาอาชีวะ 88 คน โดยผู้สำเร็จการศึกษาได้มาทำงานกับบริษัทถึง 26 คน
· โครงการส่งเสริมสุขอนามัยช่องปาก ส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีทุกช่วงวัย “สุขภาพช่องปากที่ดีนำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดี” จัดสอนแปรงฟันอย่างถูกวิธีให้กับเด็ก โครงการอุดฟันน้ำนมด้วยวิธี SMART Technic โครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุหลักสูตรการบริหารช่องปาก Kenkobi เพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อมและการสำลักในผู้สูงวัย เป็นต้น
· โครงการไลอ้อนปันสุข มอบสิทธิในการช้อปสินค้าดี ราคาพิเศษ ช่วยลดค่าครองชีพของชุมชน ฯลฯ
· โครงการสิ่งแวดล้อมที่สอดรับกับการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน (ESG) ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ลง 55% ในปี 2030 มุ่งสู่เป้าหมายเป็นองค์กร Zero Carbon ในปี 2050 โดยใช้แนวทาง BCG (Bio Circular Green Economy)
· โครงการวัฏจักรต้นแบบการเจริญเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดน่าน ความร่วมมือระหว่างบริษัท ไลอ้อน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยชุมชนน่าน ศูนย์การเรียนรู้โจ้โก้ มูลนิธิฮักเมืองน่าน และหอการค้าจังหวัดน่าน พัฒนาภูมิปัญญาไทยใช้สมุนไพรท้องถิ่น และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเกื้อกูล
การดูแลทุกข์สุขของพนักงาน ผู้บริโภค และสังคม การลงทุนนี้ดูเหมือนจะขาดทุนพราะไม่ได้สร้างยอดขายทันที แต่เมื่อมองระยะยาว เราดูแลพนักงานดี เขาก็จะทุ่มเททำงานเพื่อองค์กร สินค้าคุณภาพดี ผู้บริโภคจะมาเป็นลูกค้าเรา ดูแลสังคมดี สังคมก็ศรัทธาเรา สิ่งเหล่านี้นี่เองที่การขาดทุนของเราย้อนกลับมาสร้างกำไรในภายหลัง
บริหารคนด้วย ’ธรรมะ’
การพัฒนาองค์กรนั้น “คน” เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กร ไลอ้อนมีหลักการบริหารที่เรียกว่า “องค์กรคนดี” ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกระดับ มีวิถีอันเป็นวัฒนธรรมองค์กร “ยกย่องคนดี ส่งเสริมคนเก่ง” จัดกิจกรรมและโครงการเพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างสุขด้วยสติในองค์กร (Mindfulness In Organization: MIO)ธรรมะนำชีวิต ส่งผลต่อประสิทธิภาพของงานเพิ่มขึ้น และธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง